เช็คให้ชัวร์ว่าลูกเป็นไข้หวัด หรือโรคไวรัส RSV

12 มิถุนายน 2025
Views
Ruamjairak Hospital
ผู้เขียน

          ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการหลังจากสัมผัสเชื้อไวรัสนี้ประมาณ 4-6 วัน ในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ทั่วไปจะมีอาการไข้ ไอแห้ง ๆ เจ็บคอ มีน้ำมูก คัดจมูก โดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยกว่า 1-2 ปี เด็กที่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เด็กที่คลอดก่อนกำหนด โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนเช่น หูอักเสบ ไซนัสหรือปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน อาจมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น หลอดลมฝอยอักเสบ และปอดอักเสบ จะมีอาการไข้สูง ไอมาก หายใจเร็ว หอบ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และมีโอกาสเสียชีวิตได้

อาการแตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร ?

อาการไม่แตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาในผู้ใหญ่หรือเด็กโต แต่ในเด็กเล็กเริ่มต้นเป็นไข้หวัดแล้วอาจมีเชื้อลุกลามไปทางเดินหายใจส่วนล่างเป็นปอดอักเสบได้

            เนื่องจากอาการของโรคจากเชื้อไวรัส RSV อาจแยกไม่ได้จากไวรัสระบบทางเดินหายใจตัวอื่น ๆ แต่มักรุนแรงกว่า แพทย์จะสงสัยโรคนี้ในเด็กเล็กที่มีอาการหลอดลมฝอยอักเสบ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่มีการระบาด แต่การวินิจฉัยให้รู้แน่ต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการ แพทย์จะตรวจหาเชื้อโดยการป้ายโพรงจมูกไปตรวจในกรณีที่มีอาการหนัก นอกจากนี้อาจจะต้องมีการเอกซเรย์ปอด หากสงสัยว่าการติดเชื้อนั้นลุกลามจนเกิดภาวะปอดอักเสบ

          ปัจจุบันยังไม่มียารักษาที่เฉพาะสำหรับการติดเชื้อไวรัส RSV โดยปกติจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ แก้ไอละลายเสมหะ ในเด็กบางรายที่มีเสมหะเหนียวมาก อาจต้องทำการพ่นยาขยายหลอดลมหรือน้ำเกลือผ่านทางออกซิเจนละอองฝอย เคาะปอดและดูดเสมหะออก ยาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์หากไม่มีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ส่วนใหญ่โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะเป็นการรักษาตามอาการและให้การรักษาแบบประคับประคอง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคได้เองในเวลา 1-2 สัปดาห์ แต่ในกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะเด็กเล็กจำเป็นต้องให้การรักษาและสังเกตอาการในโรงพยาบาล อาจต้องให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ (Antibiotics) ในกรณีที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน

คลินิกและศูนย์การรักษา