พร้อมรับมือกับไวรัส RSV โรคที่มากับหน้าฝน

12 มิถุนายน 2025
Views

ไวรัส RSV หรือชื่อเต็มคือ Respiratory Syncytial Virus เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจและโรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี และจะติดต่อกันได้ง่าย     อาการรุนแรงมักพบในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี เป็นส่วนมาก เชื้อไวรัสนี้จะลงไปที่หลอดลมฝอย หรือลงไปที่ตัวเนื้อปอด ทำให้เป็นปอดอักเสบ หรือเป็นหลอดลมฝอยอักเสบ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระวังคือถ้าเจอเชื้อไวรัสนี้ในเด็กเล็ก ๆ อายุน้อยกว่า 3 เดือน เพราะอาจรุนแรงจนทำให้เด็กหยุดหายใจได้ ซึ่งถือว่าเป็นเชื้อไวรัสที่อันตรายมากในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กที่คลอดก่อนกำหนด ก็จะเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ RSV มากกว่ากลุ่มอื่น หรือเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น ภาวะโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือเด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีภาวะขาดสารอาหาร ก็มักจะมีโอกาสติดเชื้อ RSV ได้มากกว่าเด็กกลุ่มอื่น ที่น่ากลัวไปกว่านั้น เชื้อ RSV เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อกันง่าย ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ โดยไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านทาง ตา จมูก ปาก หรือสัมผัสเชื้อโดยตรงจากการจับมือ แพร่กระจายได้ง่าย ผ่านการไอหรือจาม ซึ่งช่วงที่ระบาดหนักจะเป็นช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนกรกฎาคม ตุลาคม หรือบางทีอาจต่อเนื่องถึงช่วงต้นฤดูหนาว

อาการของไวรัส RSV

มักจะแสดงอาการหลังจากได้รับเชื้อไปแล้ว 4-6 วัน ซึ่งอาจมีอาการดังนี้

  1. มีไข้สูง 39-40 องศา ติดต่อกันหลายวัน
  2. มีน้ำมูก ลักษณะของน้ำมูกจะมีความเหนียวมาก
  3. ไอแบบมีเสมหะ จาม
  4. หายใจมีเสียง หายใจเร็ว หรือหายใจแรง หรือมีอาการหอบเหนื่อย
  5. บางรายเด็กอาจจะปากหรือตัวซีดเขียว ซึ่งเป็นภาวะที่ควรต้องรีบไปพบแพทย์โดยทันที

อาการเริ่มต้นอื่นๆ เช่น อาการไม่สดชื่น เบื่ออาหาร ง่วงนอนมากขึ้น หรือมีอาการไม่สบายทั่วไป โดยอาการที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันในเด็กแต่ละคน และอาจมีความรุนแรงตั้งแต่อาการเล็กน้อยจนถึงอาการรุนแรง โดยเฉพาะในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี อาการรุนแรงอาจเป็นไปได้ เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ หรืออาจเสียชีวิตได้ในกรณีที่เกิด

การป้องกันและดูแลเด็กเล็กจากการติดเชื้อ RSV

  1. การล้างมือ: ล้างมืออย่างสม่ำเสมอด้วยสบู่ และสอนให้เด็กล้างมืออย่างถูกต้อง เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส RSV ที่อาจอยู่บนมือเด็ก
  2. หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด: ไม่ควรพาเด็กไปเล่นที่ที่มีเด็กอยู่เป็นจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่ที่คับขันหรือมีควันเป็นพิษ เพราะอาจทำให้เด็กมีอาการรุนแรงขึ้น
  3. เปลี่ยนผ้าขนหนูบ่อยๆ: เปลี่ยนผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดหน้าบ่อยครั้ง เพื่อลดการสะสมของเชื้อไวรัส RSV บนผ้า
  4. รักษาความสะอาด: สร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยสำหรับเด็ก เช่น ทำความสะอาดผนังและพื้นบ้านอย่างสม่ำเสมอ
  5. ระมัดระวังเมื่อเด็กมีอาการป่วย: หากเด็กมีอาการป่วยที่คล้ายกับการติดเชื้อ RSV ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

การรักษา

ปัจจุบันยังไม่มียาหรือวัคซีนที่จะรักษา RSV ที่โดยตรง คุณหมอจะรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ แก้ไข ละลายเสมหะ หรือบางรายที่มีเสมหะเหนียวมาก อาจต้องพ่นยาขยายหลอดลมผ่านทางออกซิเจนละอองฝอย เคาะปอด และดูดเสมหะออก เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอาการไอ และอาการหายใจหอบเหนื่อยได้ นอกจากนี้แนะนำให้เด็กดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เสมหะเหนียวและเชื้อไวรัสจะได้ไม่ลงปอด

หากติดเชื้อไวรัส RSV จะใช้เวลาในการฟื้นไข้ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ไวรัสชนิดนี้ทำให้เกิดอาการได้ตั้งแต่ไข้หวัดธรรมดา รวมถึงอาการรุนแรงเป็นปอดบวมซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตลูกน้อยได้ เชื้อไวรัสนี้มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีกหากร่างกายอ่อนแอ

ที่โรงพยาบาลรวมใจรักษ์เรามีโปรแกรมตรวจคัดกรอง RSV (Respiratory Syncytial Virus) เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกน้อยปลอดภัยจากไวรัสตัวร้าย พร้อมรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กุมารเวช ระบบทางเดินหายใจ   คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่างได้เลยค่า

ทีมแพทย์ที่เกี่ยวข้อง

คลินิกและศูนย์การรักษา