
มะเร็งเต้านมพบสูงเป็นอันดับที่ 1 ในประชากรเพศหญิงของประเทศไทย จึงแนะนำให้ผู้หญิงที่ถึงเกณฑ์ควรเข้ารับการตรวจแมมโมแกรม ซึ่งเป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยการตรวจดิจิทัลแมมโมแกรมและการตรวจอัลตราซาวนด์เต้านมควบคู่กัน เพื่อให้การแปลผลแม่นยำขึ้น
การตรวจดิจิทัลแมมโมแกรม Digital Mammogram เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการค้นพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งไม่สามารถตรวจพบได้จากการตรวจคลำเต้านมทั่วไป เป็นเทคโนโลยีการตรวจทางรังสีชนิดพิเศษ คล้ายกับการตรวจเอกซเรย์ แต่ใช้ปริมาณรังสีน้อยกว่าเครื่องเอกซเรย์ทั่วไป 30-60% ภาพที่ได้จากการตรวจมีความละเอียดสูง ซึ่งเครื่องดิจิทัลแมมโมแกรมนี้สามารถฉายให้เห็นลักษณะความเข้มทึบที่ต่างกันของเนื้อเยื่อแต่ละชนิด เช่น เนื้อเยื่อเต้านม หลอดเลือด ไขมัน หินปูน หรือกลุ่มแคลเซียมที่เกิดจากมะเร็งท่อน้ำนมในระยะแรก รวมถึงก้อนเนื้องอกที่แม้มีขนาดเล็ก ก็สามารถค้นหาความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
การทำแมมโมแกรม จะทำการบีบเนื้อนมเข้าหากัน แล้วทำการถ่ายรูปจากด้านบน และด้านข้าง หากพบจุดที่น่าสงสัย อาจถ่ายรูปเพิ่มหรือขยายรูป เพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น ขณะตรวจอาจจะรู้สึกเจ็บได้ จึงแนะนำให้เข้ารับการตรวจในช่วงที่เต้านมตึงน้อยที่สุด โดยในระหว่างตรวจ หากรู้สึกเจ็บมากสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ เพื่อให้ลดแรงกดลง
การตรวจอัลตราซาวนด์เต้านม Breast Ultrasound เป็นการตรวจโดยการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงเข้าไปในเนื้อเต้านม ซึ่งสามารถบอกความแตกต่างขององค์ประกอบเนื้อเยื่อได้ว่าเป็นเนื้อเยื่อเต้านมปกติ เป็นถุงน้ำ หรือเป็นก้อนเนื้อ หากพบว่าเป็นก้อนเนื้อ การอัลตราซาวนด์จะช่วยบอกว่าก้อนเนื้อนั้นมีความเสี่ยงหรือความน่าจะเป็นมะเร็งหรือไม่ และช่วยเพิ่มความสามารถในการตรวจพบความผิดปกติของเต้านมในผู้ป่วยที่มีเนื้อเต้านมหนาแน่นได้ อย่างไรก็ตามการอัลตราซาวนด์จะไม่สามารถตรวจพบหินปูนได้
ระยะเวลาที่เหมาะสมในการเข้ารับการตรวจแมมโมแกรม คือ 7-14 วันหลังการมีประจำเดือน เพราะเป็นช่วงที่ไม่คัดเต้านม ทำให้ขณะรับการตรวจรู้สึกเจ็บน้อยลงหรืออาจจะไม่เจ็บเลย
ใคร…ที่ควรได้รับการตรวจแมมโมแกรม?
ผู้หญิงทุกคนควรได้รับการตรวจแมมโมแกรมอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แต่สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต้องหมั่นตรวจเป็นประจำตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรค
1. ผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจเต้านมเป็นประจำทุกปี
2. มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งมาก่อนต้องเข้ารับการตรวจเต้านมก่อนวัย 35 ปี เนื่องจากพบปัจจัยเสี่ยงมากกว่าผู้อื่น
3. ไม่มีบุตร หรือ มีบุตรคนแรกหลังอายุ 30 ปี
4. ทานยาคุมกำเนิดเป็นระยะเวลานาน
5. มีภาวะอ้วน สูบบุรี ดื่มแอลกอฮอล์
ตรวจเต้านมด้วยดิจิตอลแมมโมแกรม ต้องเตรียมตัวอย่างไร
1. ควรงดทาเครื่องสำอางหรือแป้งบริเวณต่ำกว่าคอลงมาไม่ควรทาแป้ง, สารระงับกลิ่นกายและโลชั่นบริเวณรักแร้หรือทรวงอก เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดจุดบนภาพทำให้การวินิจฉัยคลาดเคลื่อน
2. ไม่ควรนัดตรวจในช่วงให้นมบุตรหรือเมื่อท่านรู้สึกคัดตึงเต้านม หรือในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือนเพราะจะทำให้ท่านเจ็บระหว่างตรวจมากกว่าช่วงเวลาอื่นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการตรวจดิจิตอลแมมโมแกรมคือ ช่วงหลังหมดประจำเดือน
3. สำหรับท่านที่เคยตรวจแมมโมแกรม หรือดิจิตอลแมมโมแกรมควรนำภาพ และผลการตรวจเดิมมาด้วยเพื่อให้แพทย์ใช้เปรียบเทียบ
4. หากสงสัยว่าอาจจะตั้งครรภ์ หรือมีการเสริมเต้านมต้องแจ้งเจ้าหน้าที่หรือแพทย์ก่อนตรวจทุกครั้ง