ความน่ากลัวของปัญหา “โรคอ้วน”

            ความอ้วน ถูกองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้เป็น “โรคอ้วน” เพราะเเค่เพียง 40ปีผ่านไป เราพบเด็กๆในวัยเรียน ที่มีค่าดัชนีมวลกายสูงเกินกว่ามาตรฐาน จาก1ใน100คน เพิ่มเป็น 8คน จาก100คน หรือมากขึ้น 8เท่านั้นเอง

            เเละคำอธิบายของปัญหานี้ คงไม่พ้นสุภาษิตของทางตะวันตกที่ว่า “ํYou are what you eat” ใช่ครับ ในยุคนี้เด็กๆกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพน้อยลง อุดมไปด้วยไขมัน เเละน้ำตาลที่เป็นอาหารเเคลลอรี่สูง เด็กๆกินจุบจิบระหว่างวัน เเต่ในทางกลับกัน จำนวนชั่วโมงของการทำกิจกรรมนอกบ้านกลับลดลง ติดจอมากขึ้น เเละซ้ำเติมให้เเย่ลงไปอีก ในภาวะการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่เเทบจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของน้องๆให้มีเเต่ เรียน(อยู่หน้าจอ) กิน เเล้วก็นอน

ภาวะเเทรกซ้อน ที่ตามมากับ “โรคอ้วน”

            ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้เเล้ว โรคอ้วน ยังดูเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่น่าเป็นห่วง (เดี๋ยวโตไปก็คงผอมเองเเหละหมอ) หมอจะขอพูด ตัวอย่างของโรคเเทรกซ้อนที่เกิดได้ในเด็กอ้วนให้ฟังครับ

   – นอนกรน เเละหยุดหายใจขณะหลับ

   – เบาหวานชนิดที่ 2

   – ความดันโลหิตสูง

   – ไขมันในเลือดสูง

   – ตับอักเสบจากไขมันคั่งในตับ

   – เข่าผิดรูป เเละปวดสะโพกจากภาวะน้ำหนักเกิน

   – ตามัว เเละเห็นภาพซ้อน จากความดันในกะโหลกศีรษะสูง

   – การถูกบูลลี่ ล้อเลียน ซึมเศร้า วิตกกังวล ความภูมิใจในตัวเองต่ำ เเละภาวะหลีกหนีสังคม

ซึ่งทั้งหมดนี้ จะทวีความรุนเเรงขึ้น เมื่ออ้วนมาก เเละอ้วนมานาน กล่าวคือ เด็กที่อ้วนตั้งเเต่อายุน้อยๆ เมื่อโตขึ้นจะพบภาวะดังกล่าวได้มากตามไปด้วยครับ

   จากทั้งหมดที่กล่าวมา การจัดการกับ “โรคอ้วน” จึงไม่ใช่เเค่การอดอาหาร หรือ ออกกำลังกาย เเต่ต้องเริ่มจากวินิจฉัยอย่างถูกต้อง หาโรคเเทรกซ้อนตั้งเเต่เนิ่นๆ ควบคู่ไปกับการวางเเผนลดน้ำหนักโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ที่ประกอบด้วย กุมารเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เเละโรคอ้วน กุมารเเพทย์ต่อมไร้ท่อ รวมถึงสหสาขาวิชาชีพ เพื่อวางเเผนการรักษาที่จำเพาะต่อเด็กเเต่ละคน เพื่อให้น้ำหนักลดลง โดยไม่กระทบกับส่วนสูง อัตราการเติบโต เเละสมาธิในการเรียน

ขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับโปรเเกรมตรวจคัดกรอง

   – งดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 8ชั่วโมง ก่อนถึงเวลาเจาะเลือด (จิบน้ำเปล่าเล็กน้อยได้)

   – น้องๆ ไม่ได้อยู่ในช่วงที่กำลังเจ็บป่วย เช่นมีไข้ อาเจียน ถ่ายเหลว เบื่ออาหาร (หากเพิ่งหายจากภาวะป่วยเหล่านี้ เเนะนำให้หายป่วยอย่างน้อย 1สัปดาห์ก่อนเข้ารับการตรวจ)

กุมารแพทย์ประจำโรงพยาบาลรวมใจรักษ์