
ไวรัส RSV หรือชื่อเต็มคือ Respiratory Syncytial Virus เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจและโรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี และจะติดต่อกันได้ง่าย อาการรุนแรงมักพบในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี เป็นส่วนมาก เชื้อไวรัสนี้จะลงไปที่หลอดลมฝอย หรือลงไปที่ตัวเนื้อปอด ทำให้เป็นปอดอักเสบ หรือเป็นหลอดลมฝอยอักเสบ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระวังคือถ้าเจอเชื้อไวรัสนี้ในเด็กเล็ก ๆ อายุน้อยกว่า 3 เดือน เพราะอาจรุนแรงจนทำให้เด็กหยุดหายใจได้ ซึ่งถือว่าเป็นเชื้อไวรัสที่อันตรายมากในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กที่คลอดก่อนกำหนด ก็จะเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ RSV มากกว่ากลุ่มอื่น หรือเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น ภาวะโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือเด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีภาวะขาดสารอาหาร ก็มักจะมีโอกาสติดเชื้อ RSV ได้มากกว่าเด็กกลุ่มอื่น ที่น่ากลัวไปกว่านั้น เชื้อ RSV เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อกันง่าย ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ โดยไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านทาง ตา จมูก ปาก หรือสัมผัสเชื้อโดยตรงจากการจับมือ แพร่กระจายได้ง่าย ผ่านการไอหรือจาม ซึ่งช่วงที่ระบาดหนักจะเป็นช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม หรือบางทีอาจต่อเนื่องถึงช่วงต้นฤดูหนาว
อาการของไวรัส RSV
มักจะแสดงอาการหลังจากได้รับเชื้อไปแล้ว 4-6 วัน ซึ่งอาจมีอาการดังนี้
- มีไข้สูง 39-40 องศา ติดต่อกันหลายวัน
- มีน้ำมูก ลักษณะของน้ำมูกจะมีความเหนียวมาก
- ไอแบบมีเสมหะ จาม
- หายใจมีเสียง หายใจเร็ว หรือหายใจแรง หรือมีอาการหอบเหนื่อย
- บางรายเด็กอาจจะปากหรือตัวซีดเขียว ซึ่งเป็นภาวะที่ควรต้องรีบไปพบแพทย์โดยทันที
อาการเริ่มต้นอื่นๆ เช่น อาการไม่สดชื่น เบื่ออาหาร ง่วงนอนมากขึ้น หรือมีอาการไม่สบายทั่วไป โดยอาการที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันในเด็กแต่ละคน และอาจมีความรุนแรงตั้งแต่อาการเล็กน้อยจนถึงอาการรุนแรง โดยเฉพาะในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี อาการรุนแรงอาจเป็นไปได้ เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ หรืออาจเสียชีวิตได้ในกรณีที่เกิด
การป้องกันและดูแลเด็กเล็กจากการติดเชื้อ RSV
- การล้างมือ: ล้างมืออย่างสม่ำเสมอด้วยสบู่ และสอนให้เด็กล้างมืออย่างถูกต้อง เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส RSV ที่อาจอยู่บนมือเด็ก
- หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด: ไม่ควรพาเด็กไปเล่นที่ที่มีเด็กอยู่เป็นจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่ที่คับขันหรือมีควันเป็นพิษ เพราะอาจทำให้เด็กมีอาการรุนแรงขึ้น
- เปลี่ยนผ้าขนหนูบ่อยๆ: เปลี่ยนผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดหน้าบ่อยครั้ง เพื่อลดการสะสมของเชื้อไวรัส RSV บนผ้า
- รักษาความสะอาด: สร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยสำหรับเด็ก เช่น ทำความสะอาดผนังและพื้นบ้านอย่างสม่ำเสมอ
- ระมัดระวังเมื่อเด็กมีอาการป่วย: หากเด็กมีอาการป่วยที่คล้ายกับการติดเชื้อ RSV ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มียาหรือวัคซีนที่จะรักษา RSV ที่โดยตรง คุณหมอจะรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ แก้ไข ละลายเสมหะ หรือบางรายที่มีเสมหะเหนียวมาก อาจต้องพ่นยาขยายหลอดลมผ่านทางออกซิเจนละอองฝอย เคาะปอด และดูดเสมหะออก เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอาการไอ และอาการหายใจหอบเหนื่อยได้ นอกจากนี้แนะนำให้เด็กดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เสมหะเหนียวและเชื้อไวรัสจะได้ไม่ลงปอด
หากติดเชื้อไวรัส RSV จะใช้เวลาในการฟื้นไข้ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ไวรัสชนิดนี้ทำให้เกิดอาการได้ตั้งแต่ไข้หวัดธรรมดา รวมถึงอาการรุนแรงเป็นปอดบวมซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตลูกน้อยได้ เชื้อไวรัสนี้มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีกหากร่างกายอ่อนแอ
ที่โรงพยาบาลรวมใจรักษ์เรามีโปรแกรมตรวจคัดกรอง RSV (Respiratory Syncytial Virus) เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกน้อยปลอดภัยจากไวรัสตัวร้าย พร้อมรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กุมารเวช ระบบทางเดินหายใจ คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่างได้เลยค่า