โรคฮีทสโตรก อากาศร้อนต้องระวัง

12 มิถุนายน 2025
Views
Ruamjairak Hospital
ผู้เขียน

เป็นภาวะวิกฤตที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ หน้ามืด เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช็อก หากปล่อยทิ้งไว้ให้มีอาการหรือไม่สามารถระบายความร้อนออกได้มากกว่า 2 ชั่วโมง อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ ซึ่งหากได้รับการรักษาที่ล่าช้า ก็มีอันตรายถึงชีวิตได้

 

  1. Classical Heat Stroke ซึ่งจะเกิดจากความร้อนที่เกิดจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติทั่วไป ซึ่งจะพบบ่อยในผู้ที่มีอายุมาก ตั้งแต่วัยผู้ใหญ่จนถึงวัยชราและมีโรคประจำตัว โดยมีอาการที่สำคัญ คือ อุณหภูมิร่างกายสูง ไม่มีเหงื่อ
  2.  Exertional Heat Stroke เกิดจากการออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป ซึ่งมักจะเกิดในหน้าร้อน โดยมีอาการคล้ายกับ Classical แต่ต่างกันตรงที่จะมีเหงื่อออก พร้อมกับมีอาการแทรกซ้อน ได้แก่ ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ และพบไมโอโกลบินในปัสสาวะด้วย ซึ่งจะพบมากในหมู่กลุ่มผู้ใช้แรงงาน นักกรีฑา ทหาร ผู้สูงอายุ เด็ก คนอดนอน คนดื่มเหล้าจัด และผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วย เป็นต้น

 

  1. มีไข้สูงมากกว่า 40.5 องศาเซลเซียส
  2. เมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
  3. อาการทางผิวหนัง : ไม่มีเหงื่อออก ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้น
  4. อาการทางระบบประสาท : ปวดศีรษะ สับสน ตอบสนองช้า ชัก ไม่รู้สึกตัว หมดสติ
  5. อาการทางระบบไหลเวียนโลหิตและระบบการหายใจ : ความดันโลหิตต่ำ หายใจเร็ว มีการคั่งของของเหลวในปอด หัวใจเต้นผิดจังหวะ ปัสสาวะออกน้อยหรือสีเข้ม เพราะมีการสลายกล้ามเนื้อ นำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลัน

  1. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องอยู่กลางอากาศอันร้อนจัด
  2. สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดีและป้องกันแสงแดดได้
  3. จิบน้ำบ่อย ๆ อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน
  4. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา รวมถึงกาแฟ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
  5. อย่าทิ้งเด็ก ผู้สูงอายุ สัตว์เลี้ยง หรือผู้มีโรคประจำตัวไว้ในรถที่จอดอยู่กลางแจ้ง
  6. สำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย ควรมีการอบอุ่นร่างกายก่อนทุกครั้ง และควรออกกำลังกายในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท
  7. สวมแว่นกันแดด และหมวกปีกกว้าง
  8. สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หากพบอาการผิดปกติ ควรจะพบแพทย์ทันที
  9. ก่อนออกจากบ้านควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป 

 

ข้อควรระวัง คือ อย่าทำให้ร่างกายขาดน้ำ เตรียมน้ำ ดื่มน้ำเยอะ ๆ อาจจะต้องเยอะกว่าในฤดูอื่นแ

การปฐมพยาบาลกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคฮีทสโตรก อย่างแรกคือ ต้องดูว่าคนไข้มีภาวะความรู้สึกตัวที่ผิดปกติไปหรือเปล่า ถ้ามีภาวะความรู้สึกตัวที่ผิดปกติไป ให้ไปคลำชีพจรดูว่าการหายใจเขาผิดปกติหรือเปล่า ถ้ามีการหายใจที่ผิดปกติ ต้องทำ CPR และโทร 1669 เพื่อเรียกรถพยาบาลมารับผู้ป่วยไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

ในกลุ่มผู้ป่วยที่ยังมีความรู้สึกตัวที่ปกติดีอยู่ ก็สามารถนำผู้ป่วยเข้ามาในที่ร่มได้ และให้ผู้ป่วยดื่มน้ำให้เยอะ ๆ และรีบลดอุณหภูมิกายโดยการใช้น้ำแข็ง หรือการใช้ cool blanket คือการใช้ผ้ายาง ใส่น้ำแข็งลงไป แล้วให้ผู้ป่วยนอนอยู่ในตรงนั้น ถ้ามีพัดลม สามารถเปิดพัดลมได้

ถ้าใช้เป็นผ้าชุบน้ำ ในคนไข้ที่เป็นโรคกลุ่มฮีทสโตรก มักจะไม่ค่อยได้ผล แต่สามารถใช้ได้ โดยการเช็ดตัวให้เช็ดตัวเหมือนผู้ป่วยที่เป็นไข้ คือเช็ดสวนขึ้นมาเข้าทางหัวใจ เช็ดทางเดียว และเปิดพัดลม

 

ที่มา : ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

คลินิกและศูนย์การรักษา